Eland'orr

ประวัติของ Eland'orr

การถือกําเนิดขึ้นของพระนาง เปรียบดั่งบทเพลงแห่งสรวงสวรรค์ได้ถูกประทานแก่โลกใบนี้ ในคืนที่เงียบสงบ เสียงเพลงได้ถูกขับกล่อมผ่านกองไฟที่ลุกโชติช่วงไปสู่ท้องฟ้ายามในราตรีที่ดวงดาว ส่องแสงระยิบระยับ เอลฟ์ผู้มีผมสีขาวและนัยตาสีเขียวนั่งอยู่หน้ากองไฟ เขาถือเครื่องดนตรีในอ้อมแขนและขับขานบทเพลง กําเนิดองค์ราชินี เหล่าเอลฟ์แห่ง Athanor นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิศวง ทั้งความงดงาม ลึกลับ และอํานาจวิเศษที่พวกเขามีล้วนถูกทับบานผ่านบทกวี : และหนึ่งในนั้นคือเรื่องราวแห่งองค์ราชินี Tel'Annas วีรสตรีผู้โค่นล้มจ้าวแห่งความมืด Volkath ด้วยศรธนูเพียง 1 ดอก ซึ่งกลายเป็นตํานานที่ทุกคนในดินแดนต่างรู้จักเป็นอย่างดี มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยเห็นเอลฟ์ตัวเป็นๆ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาชอบอาศัยอย่างเงียบสงบในป่า Elborne ที่ห่างไกลจากโลกภายนอก ดังนั้นการปรากฏตัวของ Eland'orr จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากสําหรับเหล่านักเดินทาง แษาได้ถูกนักเดินทางเชิญให้มาร่วมดื่มไวนผลไม้และทานอาหารร่วมกับผู้คน Eland'orr นั้นเดินทางมา 3 วันโดยได้ดื่มเพียงแค่น้ํา เพราะสหพันธ์ฯ ได้เก็บรวบรวมทรัพยากรณ์ไปหมด และจะส่งผลให้ข้านเกิดของเหล่าเอลฟ์ต้องเผชิญหน้ากับความอดอยากอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ และเพื่อเป็นการตอบแทนน้ําใจของเหล่านักเดินทาง Eland'orr ได้บรรเลงเพลง กําเนิดองค์ราชินี ให้เหล่านักเดินทาง | เสียงเพลงของเบาเติมเต็มราตรีนี้ด้วยความสุขอย่างเงียบสงบ เวลาเดินต่อไป เหล่านักเดินทางจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน เหลือเพียงบุรุษคนหนึ่งที่ยังคงนั่งอยู่ที่กองไฟต่อ ภวังค์ของ Eland'orn ถูกทําลายลงด้วยคํากล่าวvอบคุณของชายผู้นั้น ข้าาไม่เคยพบเจอนักกวีที่บรรเลงบทเพลงได้ไพเราะขนาดนี้มาก่อน แต่เพลงของท่านแอบแฝงความเศร้าไว้นะ อย่างนั้นหรือ? Eland'orr กล่าวตอบ บุรุษผู้นี้ดูไม่ไว้วางใจ Eland'orr เท่าไรนัก เนื่องจากเงาสงสัยในเครื่องดนตรีของ Eland'orr และพร้อมที่จะหันดาบใส่เษาตลอดเวลา แต่ Eland'orr เป็นนักกวี เขาไม่ต้องการใช้ความรุนแรง ดูเหมือนชายผู้นี้จะเป็นนักล่าปีศาจ หน้าที่ของเขาคือคุ้มครองนักเดินทางจากเหล่าอสูรกาย และเขาก็ไม่ไว้วางใจ Eland'orr เพราะเหตุผลข้อนี้ หากเป็นเช่นนี้ ข้าจะเล่าเรื่องราวของตัวข้าผ่านบทเพลงให้ท่านฟังแล้วกัน จากนั้น Eland'orr ก็เริ่มบรรเลงเพลงทันที เนื้อเพลงบรรยายถึงช่วงที่กองทัพแห่งความมืดยาตราทัพเข้ารุกรานผืนป่า ราชินี Tel'Annas และผู้พิทักษ์คนอื่นๆ ได้รับผลของความมืดจากการต่อสู้ พวกเขาพยายามใช้โคมไฟศักดิ์สิทธ์ชําระล้างพลังแห่งความมืด แต่โคมไฟศักดิ์สิทธ์กลับได้รับความเสียหายเพราะความอยากรู้อยากเห็นของนักเดิน ทางคนนึง มันส่งผลให้พลังความมืดปกคลุมผืนป่า มันได้คร่าชีวิตไปนับไม่ถ้วนรวมถึงเพื่อน และครอบครัวของนักเดินทางผู้นั้นด้วย ในช่วงที่ราชินีเข้าสู่การหลับไหล นักเดินทางผู้นั้นก็ได้ผนึกตัวเองไว้เช่นกัน เช่นนั้น เจ้าก็คือนักเดินทางคนนั้นรึ? เป็นเวลาร่วมศตวรรษแล้วที่ข้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพื่อชดใช้บาปที่ข้าได้ก่อขึ้น หลังจากได้ฟังเรื่องราวของ Eland'orr แล้ว นักล่าปิศาจจึงตัดสินใจเชื่อในตัวเขา ขอบคุณ Riktor Eland'orr พูดพร้อมทั้งยิ้ม ไม่ต้องตกใจ ว่าเห็นคนอื่นเรียกท่านด้วยชื่อนี้เฉยๆ ทั้งท่านและข้าต่างก็ผ่านความโดดเดี่ยวมาเหมือนกัน แม้จะต่างที่มาก็ตาม เมื่อใดที่ความมืดก่อตัวขึ้นมา ข้าหวังว่าเราจะได้สู้รวมกันเหมือนเพื่อนนะ จากนั้นทั้ง 2 ก็จับมือแบบมิตรภาพก่อยจะแยกทางกัน หากแยกกันดั้งเพื่อน ก็จะกลับมาพบกันใหม่ในฐานะเพื่อนเหมือนเดิม

Skill

Soul Seal

การโจมตีปกติของ Eland'orr จะฝัง Soul Seal ใส่เป้าหมาย เมื่อสะสมครบ 3 ครั้ง จะสร้าง ความเสียหายเวท 150 (+30%กายภาพเพิ่มขึ้น) แก่ศัตรูรอบๆ เมื่อเขาใช้สกิล หรือเก็บ Soul Lamp ขึ้นมา การโจมตีปกติจะสร้างความเสียหายกายภาพ เพิ่มขึ้น (+40%กายภาพเพิ่มขึ้น) ทุกสกิลสามารถกดใช้ซ้ําอีกครั้งเพื่อกลับไปยังจุดที่ Soul Lamp อยู่ ขณะที่ไม่มี Soul Lamp อยู่กับตัว Eland'orr จะวิ่งเร็วขึ้น 30 หน่วย

Butterfly Wings

Eland'orr พุ่งไปยังทิศที่กําหนดโดยที่ปล่อย Soul Lamp ทิ้งไว้ที่เดิม

Butterfly Dance

Eland'orr สั่งให้ Soul Lamp บินรอบตัวพร้อมกับโจมตีศัตรูในระยะ 2 ครั้ง แต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายเวท 200 (+50%กายภาพเพิ่มขึ้น)

Morph

Eland'orr ปล่อย Soul Lamp ออกไปผลักศัตรูถอยหลังพร้อมกับสร้าง ความเสียหายเวท 300 (+100%กายภาพเพิ่มขึ้น) จากนั้น Sout Lamp จะค่อยๆ บินไปยังทิศที่กําหนดต่ออย่างช้าๆ